ธรณีสารใหญ่

ธรณีสารใหญ่



         ธรณีสารใหญ่ เป็นชื่อโองการ สำหรับเสกเป่าทำน้ำมนต์ประพรมผู้ที่เคราะห์ร้าย บังเกิดอุบาทว์ หรืออาเพศต่าง ๆ ขึ้นในบ้านเรือน เมื่อหมอร่ายโองการเสกเป่าน้ำมนต์ประพรมหรือซัดน้ำมนต์ เคราะห์ร้ายจะหายไป โองการธรณีสารใหญ่ ถือเป็นโองการที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์ การแสดงหนังตะลุงทุกครั้งจะออกรูปฤๅษี ร่ายโองการธรณีสารเพื่อปัดเป่าอุบาทว์เสียก่อน เนื้อหาในบทธรณีสรรสะท้อนคติคามเชื่อดั้งเดิม ผสมกับคติพราหมณ์และพุทธ มีดังนี้

 นโม นมัสการเม แห่งข้าจะไหว้ พระปรเมศวรผู้เป็นเจ้าเสด็จลงมาตั้งฟ้าตั้งดิน ตั้งสมุทรสายสินธุ์อันอุดม ข้าจะไหว้พระอินทร์ พระพรหม พระยมพระกาล พระจตุโลกบาดาลทั้งสี่ พระฤๅษีนารอด ยอดปิฏกกรรไกร พระวิสูตร (พระสูตร) พระวินัย พระปรมัตถ์ พระไตรสรณคมน์ ทั้งพระพ่อหมอเอก พระพุทธคิเนคณ์ พระพุทธคินาย พระนารายณ์ พระกัจจายเถระ พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระพุทธ พระธรรม พระควัมบดี พระมหาโพธิ พระมหาสาริกธาตุ แก่นจันทน์ พระศรีรัตนตรัยเจ้านั้น ท่านจึงมาให้ตั้งโอการเบิกบ้านและเบิกป่า เบิกพระหิมพานต์ เบิกพระพุย เบิกพระพาย เบิกพระพิรุณ พระเพลิง พระกาล ท่านจึงให้กูตั้งพิธีสารพัด กันเสนียดจัญไร กันที่ชั่วทั้งหลาย อย่าระคายมาต้องพาน ทั้งพระธรณีสารอย่าได้มาต้อง เธอจึงให้กูตีเชือกบ่วงบาศก็คล้องรัตคน โดยมณฑลที่ท่านว่าไว้เธอจึงให้กูมาผลาญ ต้นไม้ใหญ่อันมีผี อันครกสีและกระเดื่อง กูจะตั้งพิธีสารพัด ทำโขลนทวารบานประตู ขุดคูและขุดบ่อ ปิดท่อปิดทาง ปิดบึงปิดบาง ปิดทวารและถมสระ ปั้นรูปพระและรูปเทวดา ปั้นรูปภาพนานา พากย์เจรจาและจอหนัง ขนันผีมิดี กาสังผีตายโหง ต่อโลงและโกศฝา ทำศาลาและหน้ามุข สีสุกไม้ไผ่ กลับกลายทางทิศตะวันตก แมงมุมตีอก หนูกกในเรือน เรียกเพื่อนตามกัน เสาเรือนตกมัน ไม้รังนางเรียง ที่ลาด ที่แก่ง ที่เกาะ ที่เฉลียง ที่วน ที่วัง ที่พังน้ำขัง ผึ้งต่อจับรวงรัง ไม้หักทับที่ ปลวกขึ้นในแดน ตะกวดเหี้ยแล่นบนเรือน ไก่เถื่อนเข้าบ้าน งูเหลือมขึ้นร้าน แร้งจับหลังคา ข้าวสารแช่น้ำ ติดขึ้นเป็นใบ เห็ดงอกเตาไฟ สิงห์สัตว์ขึ้นไข่ บนฟูกบนหมอน วัวควายเขาหัก เขาจักเขาคอน เขาซ้อนสลักคอก ข้างนอกฟันหักประตูผี ฝันร้ายมิดี เงาหัวพิกล หญิงชายข้าคน นอนกรนนอนคราง นอนหลับตาค้าง น้ำลายไหลนอง หม้อร้องเป็นเสียงฆ้อง เสือร้องเป็นเสียงช้าง กล้วยออกปลีข้าง ๆ กลายเป็นดอกบัว ผีให้ผีหัว ทำให้คนกลัว ตัวสั่นทาวทาว สำริดทองขาว แตกร้าวกระจาย หัวแหวนสลาย เขี้ยวงาพิการ ปิดพระสมุทร ขุดพระทวาร ขึ้นร้านถล่ม ขึ้นช้างก้นร่ม หวีผมกลางคืน นอนละเมอนอนเพ้อ เหมือนคนบ้า น้ำซับชายผ้า หมาขึ้นหลังคา หมาขึ้นกะออมข้าว นกเค้านกแสก บินแถกเอาขวัญ ดันเข้าที่นอน หมาแม่ลูกอ่อน คาบลูกขึ้นเรือน หมาเยียมหน้าต่าง คนซบเซาหาวนอน คนต้องอธิกรณ์ ขื่อคาโซ่ตรวน ชายไม่มีเมีย หญิงไม่มีผัว ไม่มีเงาหัว ตกบ่อตกเสา ปลูกเรือนหว่างกลาง พี่น้องต่างกัน รุกที่รุกแดน แว่นแคว้นขอบขัณฑ์ แม่ไก่ขัน กลับมาฟักไข่ ผีหลอกผีหลอน ตีเกาะเคาะไม้ จิ้งจอก หมาใน วิ่งไล่เห่าขบ แร้งคาบเอาศพ ตกลงหลังคา มดปลวกขึ้นฝา งูทับสมิงคลา เลื้อยมาเข้าบ้าน ฟักทองขึ้นร้าน กลายเป็นนาคี กล้วยตายคาปลี กลายเป็นผีพราย แกะรูปภาพทั้งหลาย เบิกพระเนตร สลักหนัง ฝังเสาเกลียด ถอนเสาตะลุง ลดเรือนลดยุ้ง เห็นผีพุ่งไต้ ต้องอุกกาบาต ร่วมอาสน์พระสงฆ์ เสาเรือนไม้แก่น เอาไม้ไปประสมโขลง ตั้งเสากระโดง ติดกระโหมดยาติดโขนเรือพายม้า หมาเยี่ยวรดตีน ขุดตอใต้ดิน หินหักสองท่อน ที่ลุ่มที่ดอน สาครลดตลิ่งพัง เรือนเติมเรือนตั้ง ฝั่งน้ำหัก เสาเรือนยอดสลัก หักใต้กระได เอาต้นต่อต้น เอาปลายต่อปลาย เสาเรือนไสกบ ปิดน้ำทำนบ ฝูงคนทั้งหลาย ผสมโคผสมควาย ผสมม้าผสมช้าง เลือกรางทำสวน ต่อกงเกวียนกำ ขุดสระขุดคลอง ช่องที่สูงต่ำทำถั่ว วัวไถนา มากกลางตลาด บาตรแตกสาแหรกขาด ตะลุ่มทาชาด กินช้อนหอยมุกข์ ร่วมอาสนะท้าวพระยา ตัดไม้ฝามาผสมหินบด ขุดคร่อมตอไม้ ทิ้งไฟทิ้งเรือน ถอดงาช้างเถื่อน เลื่อนผีตายโหง ไม้สักต่อโลง โยงเข้าป่าช้า ชายกระเบนเช็ดหน้า ก้างปลาจิ้มฟัน หายใจรดกัน กระไดสี่ขั้น ทำช่องห้องขัด ปลูกเรือนร่วมวัด ไม้ปัดหลังคา เสาเรือนฟ้าผ่า หลังคาไฟไหม้ ใช้แม่กระได ใช้กระดานบานประตู เลี้ยงนกประสมคู่ หนูน้อยมีไข่ เสาเรือนไฟไหม้ ปักไม้เสาเจาะ หนูกัดตีนจำเพาะ แมลงสาบเลียหัว ผ้านุ่งกินตัว ไฟไหม้ไต้ลน เรือนเซทับคน วัวชนควายเฉี่ยว เรือนปัถพังอาถรรพ์ ปลุกกุฏิวิหารการเปรียญเขียนภาพนานา ทำศาลาและมณฑป พนมศพพนมเมรุ พระครูกูชื่อพระกัจจายเถร เธอเสด็จเข้าสู่นิพพานัง ปะทะมัง สุขัง พุทธัง กันสารพัด เสนียดจัญไร วินาศสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ ธัมมังกันสารพัด เสนียดจัญไร วินาศสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ สังฆังกันสารพัด เสนียดจัญไร วินาศสันติ สิทธิหุลู สะวาหายะ 


ชื่อคำ : ธรณีสารใหญ่
หมวดหมู่หลัก : ศาสนา และความเชื่อ
หมวดหมู่ย่อย : ไสยศาสตร์ เวทมนต์ คาถาอาคม
ชื่อผู้แต่ง : พ่วง บุษรารัตน์
เล่มที่ : ๗
หน้าที่ : ๓๕๔๕